ยังคงมุ่งมั่นในเจตนารมณ์ทำเพื่อสังคมควบคู่ไปกับการทำธุรกิจเสมอมาสำหรับ บริษัท กรุงเทพดรักสโตร์ จำกัด หรือ “ร้านยากรุงเทพ” ที่ตลอดมานั้นได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมและเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้งานใหญ่ที่จัดขึ้นทุกปี คืองานการวิ่งกุศล “วิ่งให้โอกาส” ที่มีไฮไลท์สำคัญคือเส้นทางวิ่งเป็นรูปหัวใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย อันเป็นรากฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนที่มีจิตกุศล รวมถึงเหล่านักวิ่งที่มาลงสมัคร และหน่วยงานภาคเอกชนมากมายที่ให้การสนับสนุน

ในปี 2568 นี้ยังคงจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนก้าววิ่งให้เป็นห้องเรียน” เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กไทยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้มีอนาคตที่สดใสขึ้น เพราะ “ก้าวที่คุณวิ่ง คือโอกาสที่เด็กจะได้เรียนหนังสือ” โดยรายได้จากค่าสมัครทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้กับ “กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)” ผ่าน “มูลนิธิก้าวคนละก้าว” โดยมี “ดร.ไกรยส ภัทราวาท” ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และคุณอาทิวราห์ คงมาลัย หรือพี่ตูนมาเป็นผู้รับมอบ

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ต้องการโอกาสในการเรียนรู้ เพราะ “การศึกษาไม่ควรถูกจำกัดด้วยฐานะทางบ้าน” ซึ่งจัดขึ้นที่ “บางกอกเวิร์ล สวนสยาม” งาน “วิ่งให้โอกาส2025” จึงไม่ใช่แค่งานวิ่งธรรมดา แต่เป็นโอกาสที่ผู้เข้าร่วมได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตให้กับเด็กไทย ที่สำคัญในปีนี้มีเหล่าดารา เซเลบริตี้คนดัง มาร่วมวิ่ง ไม่ว่าจะเป็น ตูน – อาทิวราห์ คงมาลัย , โตโน่ – ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ , อั้ม – อธิชาติ ชุมนานนท์ , แพท พาวเวอร์แพท , ครูเต้ย – อภิวัฒน์ บุญเอนก นอกจากนี้ยังมีครูคนดัง “ครูแอน นางฟ้านักวิ่ง” ครูที่มาวิ่งเพื่อศิษย์ ครูผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนและสังคม อีกทั้งยังมีกลุ่มตัวแทนคุณครูทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษามาร่วมวิ่งด้วย รวมถึงเจ้าหน้าที่จากสภาเภสัชกรรม บรรยากาศภายในงานจึงเต็มไปด้วยพลังแห่งความสามัคคี ความอบอุ่น และแรงบันดาลใจจากนักวิ่งผู้มีหัวใจเพื่อสังคมมารวมตัวกัน

นายชูวิทย์ วัยศิริโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท กรุงเทพดรักสโตร์ จำกัด กล่าวว่า “ใน 2 ปีที่ผ่านมาที่เราได้จัดการวิ่งการกุศล “งานวิ่งให้โอกาส” นั้นได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายภาคส่วน หลายหน่วยงาน รวมถึงได้รับความสนใจจากประชาชนมากมาย ซึ่งถือได้ว่าประสบผลสำเร็จ เราจึงอยากจะทำต่อเนื่องไปในทุกๆ ปี เพราะหนึ่งก็คือเราอยากให้ประชาชนหันมาเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย ที่จะช่วยเรื่องของสุขภาพ ป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ จึงได้เกิดงานในปีนี้ ซึ่งนับเป็นปีที่ 3 แล้ว สำหรับปีนี้เป็นโชคดี และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่เราได้มูลนิธิก้าวคนละก้าวมาเป็นพันธมิตรที่ดีมากๆ ซึ่งเรามีเจตนารมณ์เดียวกันคือเรื่องการศึกษาของเด็กที่ขาดโอกาส จึงนำเงินรายได้ไปมอบให้กับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อนำไปช่วยน้องๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนที่มาร่วมกันจัดงาน รวมถึงผู้ที่ลงสมัครวิ่งครั้งนี้ ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรากฐานที่ดีให้กับเด็กๆ ที่จะเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติ”