Share This Article
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การจัดการก๊าซเรือนกระจกเป็นรีเทลแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้ DEEP TECHNOLOGY วัดผลปริมาณการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม เดินหน้าผนึกเครือข่ายสร้าง SUSTAINABLE ECOSYSTEM ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะองค์กรแห่งความยั่งยืน ภายใต้แนวทาง ESGขานรับนโยบาย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศเจตนารมณ์ ร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาก๊าซเรือนกระจก เดินหน้าเป็นรีเทลแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้ DEEP TECHNOLOGY หรือเทคโนโลยีขั้นสูง วัดผลปริมาณการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมผนึกกำลังเครือข่ายสร้าง SUSTAINABLE ECOSYSTEM ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่านโครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอน โดยผนึกความร่วมมือ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO) , บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของ PLATFORM CERO CARBON WALLET APPLICATION, บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด ตลอดจนซัพพลายเออร์ และเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ร่วมกันสร้างการรับรู้และส่งเสริมการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอน พร้อมพบกับครั้งแรกของแอปพลิเคชั่นที่สามารถวัดปริมาณการลดคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรม CERO APPLICATION และร่วมสะสม CERO POINT ลุ้นรับของรางวัลมากมาย รณรงค์และส่งเสริมการเลือกซื้อสินค้าฉลากคาร์บอน ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 30 มิถุนายน 2566 ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทุกสาขา
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาก๊าซเรือนกระจก
เพื่อบรรลุสู่เป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน (CARBON NEUTRALITY) ในปีค.ศ. 2050 (พ.ศ.2593) และเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (NET-ZERO GHG EMISSION) ในปี ค.ศ.2065 (พ.ศ.2608) โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตระหนักถึงปัญหาก๊าซคาร์บอนมาโดยตลอด พร้อมรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน
ทั้งภาครัฐและเอกชน มีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำ ควบคู่กับการพัฒนากลไกการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตในประเทศให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ สำหรับโครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอน ถือเป็นการแสดงเจตจำนงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกซื้อสินค้าฉลากคาร์บอน
ซึ่งถือเป็นการผลักดันการบริโภคสินค้าและใช้บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนสู่การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดก๊าซคาร์บอน รวมไปถึงผลักดันภาคอุตสาหกรรมการผลิตให้ความสนใจในทุกการกระบวนการการผลิต ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกใช้วัสดุตลอดจนถึงการกำจัดมุ่งเน้นกับการสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมไปสู่การเป็นเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ นำมาซึ่งการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน
วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะองค์กรแห่งความยั่งยืน ภายใต้แนวทาง ESG และเป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย(TCNN) ที่มีเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจภาคอุตสาหกรรม เดินหน้าประกาศเจตนารมณ์ ในการสนับสนุนแนวยุทธศาสตร์ระยะยาว ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการยกระดับการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (CARBON NEUTRALITY) ในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ.2593) และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ( NET ZERO GHG EMISSIONS ) ภายในปี ค.ศ.2065 (พ.ศ.2608) โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในการลดการเกิดภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เดินหน้าเป็นรีเทลแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้ DEEP TECHNOLOGY หรือเทคโนโลยีขั้นสูง วัดผลปริมาณการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมผนึกกำลังเครือข่ายสร้าง SUSTAINABLE ECOSYSTEM ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่านโครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอนโดยผนึกกำลังความร่วมมือกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO) , บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของ PLATFORM CERO CARBON WALLET APPLICATION และบริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด ตลอดจนซัพพลายเออร์ และเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ร่วมสร้างการรับรู้ และส่งเสริมการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอน (CARBON FOOTPRINT) อีกทั้งการมีส่วนในการผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิต ให้ความสนใจในการร่วมเป็นเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย โดยจะเป็นโครงการแรกของประเทศไทย ที่ผู้บริโภคสามารถวัดปริมาณการลดคาร์บอนจากการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรมผ่าน CERO CARBON WALLET APPLICATION”
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอน แบ่งเป็น 2ประเภท ได้แก่
ด้วยการสนับสนุนสินค้าคาร์บอนต่ำและสินค้าฉลากคาร์บอน โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนภาคประชาชนผ่านการสนับสนุนสินค้าคาร์บอนต่ำนี้ ถึง 1,000 ตันคาร์บอนเทียบเท่า ภายในระยะเวลาโครงการ 3 เดือน”
สำหรับกิจกรรมโครงการรณรงค์ ฉลากคาร์บอน ในครั้งนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้รวบรวมสินค้าฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ประเภทสินค้าอุปโภคบริโภครวมทั้งสิ้นกว่า 20 แบรนด์ ได้แก่ CP, S&P, CPF, ไลปอน เอฟ, M Wrap, Comfort , Chang, โออิชิ, คริสตัล, Est, จับใจ, หยก, โอลีน, มาม่า, ไวไว, เกสร, เด็กสมบูรณ์, องุ่น, ตราฉัตรไลท์, ชาวเกาะ, กู๊ดไรฟ์, วี-ฟิท, คิงไอแลนด์, TCB, มิตรผล และGOOD EATS เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าและใช้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณต่ำเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์หรือบริการประเภทเดียวกัน และถือเป็นครั้งแรกของการเปิดตัวCERO APPLICATION แอพพลิเคชันที่สามารถชี้วัดปริมาณการลดคาร์บอนจากการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรม เพียงสแกนบาร์โค้ดท้ายใบเสร็จผ่าน CERO APPLICATION หรือ M CARD APPLICATION ระบบสามารถแสดงผลปริมาณการลดคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งคำนวณค่า CERO เพื่อสะสม CERO POINT แลกรับรางวัลมากมาย
วรลักษณ์ กล่าวสรุปว่า “อยากให้โครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอน เป็นโมเดลต้นแบบ เพื่อจุดประกายให้ภาคอุตสาหกรรมผู้ผลิตสินค้าต่างๆ ใส่ใจในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การกระจายสินค้า การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังหมดอายุการใช้งาน และนำสินค้าขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอน อันจะยังประโยชน์สูงสุดในการร่วมลดปริมาณคาร์บอน ลดก๊าซเรือนกระจก”
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาก๊าซเรือนกระจก ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอน เพื่อร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยังยืน และร่วมโครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอน กับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป เพื่อแลกรับของรางวัลมากมาย ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 30 มิถุนายน 2566 ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทุกสาขา