““ต้นมณีโคตร” แห่งอุษาคเนย์”

มณีโคตร หรือ ต้นแก้วมะนีโคด เป็นชื่อต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่ามีเพียงต้นเดียวในโลก เติบโตท่ามกลางตำนานมากมายอยู่บนแง่หินที่เป็นเหมือนเกาะเล็กๆ ที่กล่าวกันว่าไม่เคยมีผู้ใดไปถึง กลางน้ำตกคอนพระเพ็ง ซึ่งถือเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนและถูกเรียกขานว่าเป็นไนแองการ่าแห่งเอเชีย ชาวบ้านบางส่วนที่นี่เรียกต้นมณีโคตรแห่งนี้ว่า “ต้นชี้ตายปลายชี้เป็น”

 

ในสมัยสงครามล่าอาณานิคม ฝรั่งเศสนั้นเคยคิดจะระเบิดแก่งคอนพระเพ็งแห่งนี้เพื่อให้เรือผ่านขึ้นไปถึงเวียงจันท์ แต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ จึงได้สร้างทางรถไฟขนถ่ายสินค้าและสิ่งของผ่านดอนคอน ไปลงท่าเรือที่ดอนเดชแทน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นทางรถห้าแถวบรรทุกนักท่องเที่ยวไปชมน้ำตกหลี่ผี

ความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวลาวยังมีเรื่องเล่าขานกันอีกว่า ฝรั่งเศสเคยเอาเรือมาฉุดเพื่อโค่นให้ต้นไม้มณีโคตรนี้ล้ม และเพื่อทำลายความเชื่อภูตผีและตำนานของคนลาว แต่ก็ทำไม่สำเร็จ บางคนเล่าว่า ทหารที่โรยตัวลงจากเฮลิคอปเตอร์ทั้งจากฝรั่งเศสและรัสเซียที่ต้องการพิสูจน์เรื่องเหล่านี้ ล้วนพลัดตกลงไปตายกลางน้ำตก ไม่มีใครสามารถลงไปเหยียบเกาะหินเล็กๆ ที่เป็นที่ตั้งของต้นมณีโคตรได้เลย รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งของฝรั่งเศสที่บินไปใกล้ๆ ก็ตกลงอย่างไม่รู้สาเหตุด้วยเช่นกัน เรื่อง “ต้นมณีโคตร” นั้นเล่าขานกันมาอย่างยาวนาน และเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวสปป.ลาวและชาวอีสานที่อยู่ติดชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี

โดยเมื่อ 70-80 ปีก่อน มีพระภิกษุรูปหนึ่งได้ธุดงค์โปรดสัตว์อยู่แถบนี้ ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปที่ใดก็มักจะกล่าวกับผู้คนที่พบพานอยู่เสมอว่า “ผู้ใดไปถึงหลี่ผี หากเป็นผู้ไม่มีบุญบารมีแล้วอย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นต้นมณีโคตร”

ต้นมณีโคตรนั้นได้จากอุษาคเนย์ไปแล้ว ภายหลังจากที่ได้ยืนต้นตาย รัฐบาลลาวได้พยายามหลายครั้ง เพื่อที่จะไปกอบกู้เอาต้นมณีโคตรมาเก็บไว้ที่พิพิภัณฑ์เมืองโขง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ก่อนหน้านี้ทางการลาวได้ใช้เฮลิคอปเตอร์หย่อนคนลงมา เพื่อนำเชือกมามัดต้นไม้ไว้กับแก่งหินเพื่อไม่ให้ลอยหายไป แต่ไม่สามารถนำต้นขึ้นมาบนฝั่งได้เนื่องจากต้นไม้มีขนาดใหญ่และกระแสน้ำรุนแรง จนเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2556 ทีทางการสปป.ลาวได้ปฏิบัติภารกิจนี้จนสำเร็จ โดยมีประชาชนทั้ง2ฝั่งให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยที่ทหารต้องใช้เวลาทั้งวัน เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญนี้ โดยนำเฮลิคอปเตอร์ทางทหารของสปป.ลาว หย่อนทหารโรยตัวลงไปหลายคน เพื่อช่วยกันนำเอาต้น “มณีโคตร” ขึ้นมาจนสำเร็จ ท่ามกลางพลังแรงดันน้ำมหาศาลที่กดอากาศแปรปรวนในพื้นที่ดังกล่าว ฝูงนกบินทั่วท้องฟ้า ปัจจุบันรัฐบาลลาวได้นำไปเก็บไว้ที่พิพิภัณฑ์เมืองโขง

ปัจจุบันไม้ศักดิ์สิทธิ์มณีโคตรได้ตกทอดมาอยู่ที่ไทย 2 ชิ้น โดยก่อนหน้าที่ทางสปป.ลาว จะทำการกู้ต้นมณีโคตรไว้ในพิพิธภัณฑ์ฯ ได้มีผู้มีวิชาบุญญาธิการได้ทำพิธีแล้วได้ไม้ของต้นมณีโคตรที่อยู่กลางเกาะแม่น้ำโขงนี้มาครอบครองและตกทอดมาถึงพระเกจิขมังเวทย์ลุ่มแม่น้ำโขงตามคำบอกเล่า ปัจจุบันไม้มงคลมณีโคตรนี้ได้ถูกนำถวายให้กับพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ และอีกชิ้นหนึ่ง อยู่ในความครอบครองของคุณชัยพร (หมอโอมถอดรหัสชีวิต) คนหนุ่มไฟแรงมากความสามารถ ที่มีความรู้หลากหลายรอบด้าน ทั้งด้านธุรกิจ, โซเชียลมาร์เก็ตติ้ง, โหราศาสตร์ และอักขระเลขยันต์

ตำนานของมณีโคตร มาจากเรื่อง รามายณะ อีกว่า “ทศเศียรได้มาต่อสู่กับพระลักษณ์พระรามที่น้ำของทหารของทศเศียรโดนหนุมานฆ่าตายถึง ๔,๐๐๐ ตน นอนตายกลางน้ำของกลายเป็นเกาะเรียกว่า สี่พันดอน เมื่อฆ่ายักษ์เสร็จจึงหักเอากิ่งไม้มณีโคตรมาช่วยรักษาชีวิตฝ่ายตนไว้

“ต้นแก้วมณีโครต”คือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน เป็นไม้ที่ทรงคุณวิเศษมากมีเทพเทวดารักษา และเหล่านาคราชลุ่มน้ำโขงเฝ้าคุ้มครอง นับเป็นของทนสิทธิ์มีคุณอานุภาพมากและยังเป็นต้นไม้ที่แหกกฎธรรมชาติ คือต้นนั้นชี้ลงดิน รากชี้ขึ้นฟ้า ขึ้นต้นเดียวตรงโขดหินกลางแม่น้ำโขง เชื่อกันว่าหากนำส่วนต้นชี้ไปทางใครผู้นั้นจะตาย หากนำส่วนปลายชี้ไปทางใคร คนผู้นั้นก็จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง